1.1 ห้ามล้อหลังติด เพราะตั้งไว้ผิด
1.2 ตลับลูกปืนของล้อหลังชำรุด
1.3 โซ่ขับล้อหลังตึงเกินไป ตั้งไว้ผิด
2.วัดความดันของลมยางรถ และสูบให้ได้ความดันที่ถูกต้อง
3.ตรวจดูว่าคลัทซ์ลื่นหรือเปล่า ถ้าคลัทซ์ลื่น
3.1 ตั้งคลัทซ์ไม่ได้ที่
3.2.ผ้าคลัทช์สึกหรอ
3.3 สปริงคลัทซ์อ่อน
4.วัดจำนวนรอบสูงสุดของเพลาข้อเหวี่ยงด้วยเครื่องวัดรอบ ถ้าหากไม่ได้จำนวนรอบสูงเต็มที่ แสดงว่าอาจเป็นเพราะ
4.1 น้ำมันท่วมคาร์บูเรเตอร์
4.2 กรองอากาศมีของติดสกปรก
4.3 น้ำมันมาไม่พอ
4.4 ท่อไอเสียมีของติดสกปรก
4.5 คอยล์สำหรับจุดระเบิดหรือทองขาวเสีย
4.6 วาล์วปิดไม่สนิท
4.7ตั้งไฟผิด
4.8 สปริงวาล์วอ่อนเกินไป
4.9 หัวเทียนเสีย ทดสอบหัวเทียนด้วยเครื่องสำหรับใช้ทดสอบ
5.วัดระดับน้ำมันในอ่างข้อเหวี่ยงแล้วตั้งระดับให้ได้ตามกำหนด ถ้ามีน้ำมันมากเกินไปอาจทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้นได้
6.ตรจดูว่าเรื่องร้อนเกินไปหรือไม่ และถ้าพบว่าร้อนเกินไปแสดงว่าอาจเป็นเพราะ
6.1 มีเขม่าจับในห้องเผาไหม้หนาเกินไป
6.2 ใช้น้ำมันเบนซินเกรดเลวเกินไป
6.3 คลัทซ์ลื่น
6.4 ส่วนผสมอากาศ-น้ำมันบางเกินไป ขนาดของนมหนูใหญ่ของคาร์บูเรเตอร์ไม่ถูกต้อง
6.5 กระบอกสูบและหัวสูบสกปรก
7.ตรวจดูว่าเครื่องมีเสียง ก๊อก ๆ เมื่อเร่งเครื่องเร็ว ๆ หรือวิ่งด้วยความเร็วสูงจนเกินไปหรือไม่ ถ้าพบว่ามีเสียงดังกล่าว สาเหตุอาจเป็นเหมือนข้อ 6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น