2.ถอดฝาครอบอ่างข้อเหวี่ยงซ้าย, หม้อกรองน้ำมันและส่วนประกอบคลัทช์ ถอดปั้มป์น้ำมันเครื่องพร้อมกับตอนนอกของคลัทช์ออก
3.ขันน๊อต ขนาด 6 ม.ม. 3 ตัว และขนาด 8 ม.ม. 2 ตัว ที่ยึดท่อนบนของอ่างข้อเหวี่ยงออก
4.วางอ่างข้อเหวี่ยงลง แล้วถอดน๊อตสลักเกลียว 2 ปลาย ขนาด 8 ม.ม. 6 ตัว น๊อตสลักเกลียวสองปลาย 6 ม.ม. 2 ตัว และสลักเกลียว 6 ม.ม. 6 ตัว
5 ถอดส่วนใต้อ่างข้อเหวี่ยงออก โดยใช้ค้อนไม้เคาะเบา ๆ (รูป66)
6.ยกเอาส่วนประกอบเพลาข้อเหวี่ยงออก
7.ถอดเฟืองตั้งเวลาด้วยเครื่องดึง (extractor) (รูป 67)
8.ใช้สิ่งเล็ก ๆ กับค้อนตอบแผ่นล๊อคน๊อตยึดเฟือง ขันให้ราบลง, ถอดน๊อต, แผ่นล๊อกแหวนและเฟืองออก
9.ลูกปืนตัวใหญ่ที่อยู่สองข้างนั้น อาจแยกออกได้โยใช้เครื่องดึง
การตรวจและซ่อมเพลาข้อเหวี่ยง
1.ทำความสะอาชิ้นส่วนทุกชิ้นด้วยน้ำยาล้าง แล้วเช็ดให้แห้ง
2.ลูกลื่นใหญ่
2.1 จับขอบในของลูกลื่นตัวใหญ่ไว้ด้วยมือ แล้วหมุนขอบนอกด้วยมืออีกข้างหนึ่งเพื่อตรวจดูความเรียบของการหมุน และเสียง ถ้ามีเสียงดังมากเกิดไปให้เปลี่ยนเสีย
2.2 ติดลูกลื่นเข้ากับเพลาข้อเหวี่ยง โดยมีแท่นรูปตัว V รองรับเพลาข้อเหวี่ยงที่น้ำหนักถ่วง ตั้งที่วัดแบบมีห้าปัทม์ (dial gange) ให้อ่านศูนย์ผิวของขอบนอกของลูกลื่นแล้วดันขอบนอกขึ้นลงตามแนวรัศมี เพื่อวัดช่องระยะการหลวม ความหลวม สูงสุดที่จะยอมให้ใช้ได้นั้นคือ 0.0002 นิ้ว หรือ 0.005 ม.ม. รูป 68
2.3 ใช้สายตรวจดูที่ผิวของเพลาข้อเหวี่ยงตอนที่มีลูกลื่นรองรับอยู่ เปลี่ยนเพลาข้อเหวี่ยงเสีย ถ้ามีรอยขุดหรือบิดเบี่ยวขึ้น
3.ก้านสูบ แกนข้อเหวี่ยง และลูกลื่นของก้านสูบทางปลายใหญ่
3.1 วัดเส้นผ่าศูนย์กลางภายในของรูปที่ปลายบนของก้านสูบ เปลี่ยนก้านสูบเสียใหม่เมื่อประกอบเพลาข้อเหวี่ยง ถ้ามีขนาดเกินกว่าที่กำหนดไว้
3.2 วางส่วนที่มีน้ำหนักถ่วงของเพลาข้อเหวี่ยงลงบนแท่นรูป V แล้ววัดดูระยะหลวมที่สุดของปลายด้านใหญ่ โยลงดึงขึ้นและกดลงตรง ๆ ควรใช้ที่วัดแบบมีหน้าปัดอ่าน การวัดควรทำตามแนวแกนของก้านสูบ และตั้งฉากกับแนวแกน ถ้าหลวมเกินกว่า 0.0002 นิ้ว หรือ 0.05 ม.ม. (รูป69) จะต้องทำเพลาข้อเหวี่ยงใหม่
3.4 ยึดปลายใหญ่ไว้ให้อยู่ที่ศูนย์กลางของวงกลม แล้วหมุนปลายเล็กมาทางแกนเพลาข้อเหวี่ยงกำหนดสูงสุดที่จะยอมให้ใช้ต่อไปได้คือ 0.2นิ้ว หรือ 3 ม.ม. ถ้าเกิดกว่านี้ไปต้องซ่อมแซมเพลาข้อเหวี่ยงเสีย (รูป70)
3.5 การบิดเบี้ยวของก้านสูบทั้งหมด อันเนื่องมาแต่การงอโค้ง บิด หรือผิวเรียบไม่เท่ากันนั้นอาจวันได้จากค่าที่แตกต่างระหว่างปลายของแท่งโลหะขนาด 200 ม.ม. ซึ่งสอดเข้าในรูปทางปลายเล็กของก้านสูบ เมื่อหมุ่นก้านสูบตามวิธีในข้อ 3.4 ถ้าค่าต่างกันที่ได้นั้นเกิน 0.08นิ้ว หรือ 2 ม.ม. ให้ถอดเพลาข้อเหวี่ยงออกตรวจ (รูป 71)
3.6 หลังจากถอดส่วนประกอบของเพลาข้อเหวี่ยงออกแล้วหาที่เสียโดยวันชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมทั้งรูปลายใหญ่ของก้านสูบ ลูกลื่นรับก้านสูบ และแกนก้านสูบ ค่าจำกัดสูงสุดที่ยอมให้ใช้ต่อไปได้นั้น อยู่ในหน้า 158 เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอมาก รวมทั้งส่วนหลวมจนเลื่นไปมาได้
วิธีการวัดความสึกหรอของเพลาข้อเหวี่ยง ให้วางลูกลื่นใหญ่ให้รองรับไว้ด้วยแท่นรองรับรูปตัว V ติดที่วัดแบบที่มีหน้าปัทม์นี้ไว้ที่ปลายของเพลา ซึ่งไม่มีรอยเฟืองหรือเรียวลง แล้วหมุนเพลาข้อเหวี่ยงไปเบา ๆ เพื่ออ่านค่าสึกหรอที่บนหน้าปัด อ่านค่าสูงสุดที่จะยอให้ได้นั้นคือ 0.0012 นิ้ว หรือ 0.03 ม.ม. สำหรับเครื่องที่ประกอบใหม่ ๆ (รูป72)
ลูกลื่นตัวกลางของเพลาข้อเหวี่ยง ของเครื่องแบบซีบี 92 และซีเอ 95 อาจวัดหาค่าได้ตามวิธีปฏิบัติในวรรค 3.2 ถอดเพลาข้อเหวี่ยง ถ้าหลวมมีขนาดเกิดกว่า 0.002 นิ้ว หรือ 0.05 ม.ม. วัดและตรวจหาที่ผิด หลังจากที่ถอดออกมาแล้ว
ใช้เครื่องจับแบบพิเศษที่ให้ไว้ และเครื่องกดมีขนาด 10-15 ตัน ใช้ดันแกนก้านสูบออกจากเพลาข้อเหวี่ยงและน้ำหนักถ่วงได้วางเพลาข้อเหวี่ยงลงบนแท่นที่กด ซึ่งทำงานด้วยระบบไฮดรอลิคส์และรองรับน้ำหนักถ่วงแผ่นหนึ่งอย่างมั่นคง ดันแกนก้านสูบให้ออกด้วยท่อนเหล็กที่พอเหมาะ ซึ่งจะต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่าแกนก้านสูบ เริ่มการใช้กำลังอัดออกจากระบบไฮดรอลิคส์
ใช้เครื่องอัดแรงด้วยระบบไฮดรอลิกส์กับเครื่องมือสำหรับจับ (jig) ขั้นแรก กดแกนก้านสูบเข้กับเพลาข้อเหวี่ยงขวา แล้วจึงติดก้านสูบ พร้อมด้วยลูกปืนของก้านข้อเหวี่ยงโดยยึดน้ำหนักถ่วงไว้ให้มั่นคง ควรระวังให้รูปน้ำมันในเพลาข้อเหวี่ยงตรงกับรูบนแกนก้านสูบ
2.ตั้งเพลาข้อเหวี่ยงที่ประกอบเสร็จแล้ว และมีลูกปืนตัวใหญ่ติดอยู่ด้วย..โดยมีก้านสูบห้อยลงข้างล่าง ในลักษณะเช่นนี้ ร่องบนตลับลูกปืน และช่องรับลูกปืนในอ่างข้อเหวี่ยง ควรจะเข้ากันได้พอดี โดยมีแหวนบังคับสอดอยู่ตรงกลาง ใส่สลักเดือยเข้าระหว่างรองรับตัวกลางในอ่างข้อเหวี่ยงกับลูกปืนตัวกลางของเครื่องแบบซีบี 92 และซีเอ 95
5.ใส่ฝาครอบล่างข้อเหวี่ยงขวา, ฝาครอบซ้าย, เสื้อสูบและฝาสูบรวม ทั้งเครื่องกลไกทุกชิ้นภายในฝาสูบ
6.ประเก็นและแผ่นรองทุกแผ่นที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ นอกจากประเก็นน้ำนั้นแสดงไว้ตามรูป 73